อุมาพร รังสิยานนท์ (2564) การพัฒนาระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ (1) เพื่อพัฒนาระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร (2) เพื่อศึกษาผลการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ขั้นตอนการศึกษามี 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 พัฒนาระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อการจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ขั้นตอนที่ 2 สร้างและพัฒนาระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขั้นตอนที่ 3 การตรวจสอบประสิทธิภาพระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร (ด้วยการสัมมนาผู้เชี่ยวชาญ) ขั้นตอนที่ 4 การปรับปรุงระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระยะที่ 2 ศึกษาผลการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีลำดับขั้นตอนการดำเนินการประกอบด้วย 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ทดลองการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขั้นตอนที่ 2 ผลการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ มี 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 พัฒนาระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 คน ดังนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการศึกษา จำนวน 2 คน ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารสถานศึกษา จำนวน 1 คน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิชาอาชีพ จำนวน 1 คน ผู้เชี่ยวชาญด้านวัดและประเมินผล จำนวน ๑ คน ศึกษานิเทศก์ 2 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง ( Purposive Sampling ) ระยะที่ 2 ศึกษาผลการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา เป็นบุคลากรโรงเรียนและบุคลากรของหน่วยงาน ทางการศึกษาที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการส่งเสริมเวทีและประชาคมเพื่อการจัดทำรูปแบบและแนวทางการพัฒนาหลักสูตรต่อเนื่องเชื่อมโยงการศึกษาขั้นพื้นฐานกับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ปีงบประมาณ 2563 รวมทั้งหมดจำนวน 130 คน โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) การทดลองใช้การทดลองแบบ One – Group Pretest – Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ (1) ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อการจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร (2) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง จำนวน 8 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 แบบทดสอบความรู้ ความเข้าใจก่อนและหลังการศึกษาระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อการจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 2 คู่มือการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 3 แบบประเมินทักษะอาชีพ ฉบับที่ 4 แบบประเมินคุณลักษณะในการประกอบอาชีพ ฉบับที่ 5 แบบประเมินประสิทธิภาพระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 6 แบบประเมินประสิทธิภาพคู่มือการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 7 แบบประเมินประสิทธิผลการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 8 แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องในการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t -test
ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้
1. ผลการพัฒนาระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า
1.1 ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า มีประสิทธิภาพค่าดัชนีความสอดคล้องทั้งฉบับ = 0.94 โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ในระดับสูง ตั้งแต่ 1.00 ถึง 0.85 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ประกอบด้วย 1) องค์ของระบบ ได้แก่ (1) ปัจจัยนำเข้า (Input) (2) กระบวนการ (Process) (3) ผลผลิต (Output) 2) ลักษณะความร่วมมือ ได้แก่ (1) ลักษณะความร่วมมือสร้างเป้าหมาย ภารกิจ มีการแบ่งปันทรัพยากรต่าง ๆ ร่วมกัน (Jurisdiction – based Management Model). (2) ลักษณะความร่วมมือระหว่างองค์กรที่รับบทบาทเป็นผู้ให้เงินสนับสนุน (Granter) กับองค์กรที่รับบทบาทเป็นผู้รับเงินสนับสนุน (Grantee) (Donor – Recipient Model) (3) ลักษณะความร่วมมือแบบครั้งคราว (Reactive Model)
1.2 คู่มือการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า มีประสิทธิภาพค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ทั้งฉบับ = 0.93 โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ในระดับสูง ตั้งแต่ 1.00 ถึง 0.85 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คู่มือมีทั้งหมด 3 เล่ม ประกอบด้วย เล่มที่ 1 คู่มือการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง ๓ เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เล่มที่ 2 หลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เล่มที่ 3 ระบบการนิเทศ ติดตามและประเมินผล
1.3 หลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า มีประสิทธิภาพค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) รายวิชาช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ทั้งฉบับ =0.94 และรายวิชาเบเกอรี่เบื้องต้น ทั้งฉบับ =0.93 ทั้ง 2 หลักสูตรมีองค์ประกอบ 9 องค์ประกอบ ได้แก่ (1) แนวคิดและหลักการของหลักสูตร (2) จุดมุ่งหมายของหลักสูตร (3) ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง (4) โครงสร้างรายวิชา (5) สาระการเรียนรู้ (6) คำอธิบายรายวิชา (7) หน่วยการเรียนรู้ (8) แนวทางการจัดการเรียนรู้ (9) การวัดผลและประเมินผล
2. ผลการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า
2.1 ผลการวิเคราะห์คุณภาพของระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตร
อาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า มีคุณภาพสูงกว่าเกณฑ์ ที่กำหนดไว้ 82.22 /89.72
2.2 ผลการทดสอบความรู้ ความเข้าใจของของผู้บริหาร ครูและศึกษานิเทศก์ พบว่า ผลการเรียนรู้หลังศึกษาระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครเพิ่มกว่าก่อนการศึกษา ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
2.3 ผลการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า ประสิทธิผลของการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยรวมทั้ง 3 ปัจจัยอยู่ในระดับมาก (x =4.40 , S.D. = 0.49)
2.4 ผลการวิเคราะห์คุณภาพนักเรียนสําเร็จหลักสูตรตามเกณฑ์ที่กําหนด พบว่า ผลการเรียนของนักเรียนที่จบหลักสูตรอาชีพรายวิชาเพิ่มเติมที่สําเร็จตามเกณฑ์ที่หลักสูตรกําหนด จำนวน 39 คน คิดเป็นร้อยละ 100 และผลการเรียนของนักเรียนที่สําเร็จหลักสูตรอาชีพช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเปิดเป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น พบว่า นักเรียนสําเร็จตามเกณฑ์ที่หลักสูตรกําหนดโดยผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 100
2.5 ความพึงพอใจของผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และครูที่มีต่อการใช้ระบบความ
ร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x = 4.22, S.D. = 6.13) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x = 4.31, S.D. =24.58) และความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการใช้ระบบความร่วมมือแบบพลัง 3 เพื่อจัดทำหลักสูตรอาชีพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x = 4.05 , S.D. = 26.93)
ดาวน์โหลดบทคัดย่อ