บทคัดย่อ
อุมาพร รังสิยานนท์ (2564) การพัฒนารูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3) เพื่อขยายผลของรูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net MODEL ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วิธีวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีแบบพหุวิธี (Multiple Methods Research) ด้วยการวิจัยเชิงคุณภาพ(qualitative research)และ การวิจัยเชิงปริมาณ (quantitative research) ( Creswell and Clark, 2007) โดยแบ่งวิธีการวิจัยเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 กลุ่มตัวอย่าง ขั้นตอนที่1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยใช้วิธีการคัดเลือกแบบเจาะจง (purposive selection) จำนวน 20 คน ขั้นตอนที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้การวิจัยเชิงปริมาณ มี 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มตัวอย่าง ที่เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเป็นผู้โค้ช ปีการศึกษา 2562 ผู้วิจัยใช้วิธีการคัดเลือกแบบเจาะจง (purposive selection) จำนวน 50 คน 2) กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ที่รับการโค้ช ซึ่งเป็นครูจาก 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์, กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์, กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย,สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ), กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปีการศึกษา 2562 จำนวน 70 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive selection) ระยะที่ ๒ เป็นการใช้ระเบียบวิจัยเชิงปริมาณ(quantitative research) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษามี 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องการเป็นผู้โค้ช ปีการศึกษา 2563 ผู้วิจัยใช้วิธีการคัดเลือกแบบเจาะจง (purposive selection) จำนวน 280 คน 2) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นผู้ที่รับการโค้ช ได้แก่ ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์,สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์, กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย,กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ), กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปีการศึกษา 2563 จำนวน 410 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive selection) การทดลองใช้แบบ One – Group Pretest – Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) รูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2) ชุดการเรียนรู้รูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3) แบบทดสอบความรู้ รูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 4) แบบประเมินพฤติกรรมของผู้โค้ช 5) แบบประเมินพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ช 6) แบบประเมินความพึงพอใจของผู้โค้ชที่มีต่อการใช้รูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model 7) แบบประเมินความพึงพอใจของครูผู้รับการโค้ชที่มีต่อรูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model 8) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model 9) แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อการใช้รูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (Mean , ) , วิเคราะห์หาค่าความยากง่าย (Difficulty) และค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (Discrimination) ของกลุ่มสูงและกลุ่มต่ำ , ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation : SD) , ค่าทีแบบไม่อิสระ t – test (Dependent) แบบ One – tailed test และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. รูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับ
การโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีองค์ประกอบรูปแบบการโค้ช ทั้งหมด 7 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) ร่วมกันกำหนดเป้าหมาย (G = Goal) 2) วิเคราะห์ปัญหาและกำหนดปัญหา (P = Problem analysis) 3) ค้นหาทางเลือก/โอกาส/วิธีการ (O=Option) 4) การให้ข้อมูลป้อนกลับเชิงบวก (P= Positive Feedback ) 5) ลงมือปฏิบัติการโค้ช (A= Activity) 6) การประเมินสภาพการจัดการเรียนการสอนของผู้รับการโค้ช (C= Check) ๗) ขยายเครือข่าย (Net = Network) และมีประสิทธิภาพเท่ากับ 8๓.๖๗/๙๔.๐๐ ซึ่งยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 1 ว่ามีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2. ประสิทธิผลของรูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สรุปได้ดังนี้
2.1 ผลการทดสอบความรู้ ของผู้โค้ชก่อนและหลังการศึกษารูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.2 ผลพฤติกรรมของผู้โค้ชที่มีต่อการใช้รูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( x = 4.38 , S.D. = 56.57) ซึ่งพฤติกรรมของผู้โค้ชสูงกว่าก่อนใช้รูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model
2.3 ผลพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x=3.91 , S.D. = 10.84) ครูผู้รับการโค้ชมีพัฒนาการดีขึ้นในทุกคุณลักษณะ
2.4 ผลการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
หลังการใช้รูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC -Net Model มีระดับผลการเรียนเฉลี่ยสะสมสูงทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ อยู่ระหว่างร้อยละ 34.58-34.58
2.5 ผลความพึงพอใจของผู้โค้ชที่มีต่อการใช้รูปแบบการ Coach แบบGPOPAC-Net
Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยรวมทั้ง ๒ ด้านอยู่ในระดับมาก (x = 4.40 , S.D. = 62.10)
๒.๖ ผลความพึงพอใจของครูผู้รับการโค้ชที่มีต่อการใช้รูปแบบการ Coachแบบ
GPOPAC-Net Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยรวมทั้ง 4 ด้านอยู่ในระดับมาก (x = 4.23 , S.D. = 85.40)
2.7 ผลความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการ Coach แบบ
GPOPAC-Net Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยรวมทั้ง 4 ด้านอยู่ในระดับมากที่สุด (x = 4.48, S.D. = 6.16)
๒.๘ ผลความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อรูปแบบการ Coach แบบ
GPOPAC-Net Model ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยรวมทั้ง 4 ด้านอยู่ในระดับมาก (x = 4.40 , S.D. = 72.64)
3. ผลของการขยายผลของรูปแบบการ Coach แบบ GPOPAC-Net Model
ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของครูผู้รับการโค้ชในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 มีสถานศึกษาให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการ Coaching Teams เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 7 โรงเรียนและมีผู้เข้ารวมทั้งหมด 440 คน และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มีสถานศึกษาให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการCoaching Teams เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 41 โรงเรียน และมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 2,210 คน ซึ่งมีการขยายจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น
ดาวน์โหลดบทคัดย่อ