รายงานการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญภาษาไทยโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคกลุ่มสืบค้น (GI) ประกอบแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

0
717

ชื่อเรื่อง : รายงานการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มสืบค้น (GI) ประกอบแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อ – สกุล ผู้รายงาน : นางตีรณา  สาแหละเต๊ะ

สถานศึกษา : โรงเรียนมัธยมสุไหงปาดี อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานราธิวาสปีการศึกษา : 2564

            การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน  80/80 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคกลุ่มสืบค้น (GI) ประกอบแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3)  เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่จัดการจัดการเรียนรู้การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคกลุ่มสืบค้น (GI) ประกอบแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคกลุ่มสืบค้น (GI) ประกอบแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 27 คนโดยสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ 2) แผนการจัดการเรียนรู้การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคกลุ่มสืบค้น (GI) ประกอบแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความสำคัญ 4) สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และทดสอบค่าที (t-test)

            ผลการวิจัยพบว่า 1) ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2  ที่สร้างขึ้นมีค่าเท่ากับ 86.78/84.16 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 2) ประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 62.63 3)  ผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความสำคัญหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 4)  ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคกลุ่มสืบค้น (GI) ประกอบแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ อยู่ในระดับเหมาะสมมาก ผลการวิจัยสะท้อนให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคกลุ่มสืบค้น (GI) ประกอบแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีส่วนช่วยเสริมทักษะการอ่านให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือวัดผลทางการเรียน ซึ่งช่วยให้ครูเห็นปัญหาของนักเรียนและแก้ปัญหาได้ทัน ส่วนนักเรียนก็สามารถเก็บแบบฝึกไว้ใช้เป็นเครื่องมือในการทบทวนความรู้ได้ จึงมีความเหมาะสมที่จะนำไปใช้ในการเพิ่มผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความสำคัญของนักเรียน

ดาวน์โหลดบทคัดย่อ

รายงานการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญภาษาไทยโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคกลุ่มสืบค้น (GI) ประกอบแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

Comments

comments

- Advertisement -