เรียนภาษาอังกฤษสองโลกด้วยรูปแบบ Hybrid Learning ผ่านระบบคลังสื่อ OBEC Content Center

Home ฟอรั่ม บทคัดย่อ เรียนภาษาอังกฤษสองโลกด้วยรูปแบบ Hybrid Learning ผ่านระบบคลังสื่อ OBEC Content Center

กำลังดู 1 ข้อความ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)
  • ผู้เผยแพร่
    บทคัดย่อ
  • #15716

    ความเป็นมาและความสำคัญ

    ในศตวรรษที่ 21 การจัดการศึกษาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะการสื่อสารในระดับโลก ภาษาอังกฤษถือเป็นทักษะจำเป็นที่ผู้เรียนไทยควรมีความสามารถในการสื่อสาร ทั้งด้านการฟัง พูด อ่าน และเขียน เพื่อสามารถดำรงชีวิตในโลกยุคดิจิทัลที่ไร้พรมแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Trilling & Fadel, 2009) อย่างไรก็ตาม จากผลการประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษของนักเรียนไทย โดยเฉพาะในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พบว่ายังอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐาน โดยมีปัจจัยหลายด้านที่ส่งผลต่อคุณภาพของการเรียนรู้ ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้จัดทำคลังเนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ OBEC Content Center เพื่อเป็นตัวช่วยนักเรียนและครูเรียนรู้อยู่ที่บ้านหรือในทุก ๆ ที่ซึ่งคลังเนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ OBEC Content Center คือ โปรแกรมสำหรับให้บริการเผยแพร่เนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์แก่นักเรียน ครู ศึกษานิเทศ และบุคลากรทางการศึกษา สามารถใช้งานผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องมือสื่อสารพกพาได้ทุกที่ทุกเวลา และสื่อสังคมออนไลน์ทำให้การสื่อสารในปัจจุบัน มีการพัฒนาอย่าง รวดเร็ว และพัฒนาการออกแบบสื่อต่าง ๆ ออกมาหลายรูปแบบ เช่น Infographic ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในโลกของ Social Network มานำเสนอให้น่าสนใจ และทันต่อเหตุการณ์ในโลกปัจจุบัน (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2565)

    จากรายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของโรงเรียนบ้านห้วยไคร้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ พบว่านักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง 3 มีผลการเรียนเฉลี่ยในรายวิชาภาษาอังกฤษต่ำกว่าระดับคะแนนเฉลี่ยที่สถานศึกษากำหนดไว้ ทั้งในภาคเรียนที่ 1 และ 2 ปีการศึกษา 2566 (รายงานการประเมินตนเอง SAR โรงเรียนบ้านห้วยไคร้, 2566) จากการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา พบว่าส่วนใหญ่เกิดจากข้อจำกัดในด้านเวลาเรียนที่ไม่ต่อเนื่อง เช่น คาบเรียนภาษาอังกฤษมักอยู่ในช่วงเวลาที่นักเรียนไม่พร้อมเรียน เช่น ก่อนพักกลางวันหรือคาบสุดท้ายก่อนเลิกเรียน อีกทั้งกิจกรรมภายในโรงเรียนจำนวนมากส่งผลให้เวลาในการจัดการเรียนรู้ไม่เพียงพอ ทำให้นักเรียนขาดพื้นฐานทางไวยากรณ์ คำศัพท์ และขาดทักษะการใช้ภาษาในชีวิตจริง นอกจากนี้ นักเรียนส่วนหนึ่งยังขาดทักษะในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ เช่น การค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ดิจิทัล การเรียนออนไลน์ รวมถึงการใช้สื่อประกอบการเรียนที่ทันสมัย ส่งผลให้ไม่สามารถพัฒนาทักษะตนเองได้อย่างต่อเนื่อง อีกปัญหาที่พบได้บ่อย คือ นักเรียนจำนวนหนึ่งมีเจตคติที่ไม่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ มองว่าเป็นวิชาที่ยาก ทำให้เกิดความวิตกกังวลในการเรียน และไม่กล้าแสดงออกในชั้นเรียน ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาการเรียนรู้ในระยะยาว ครูจึงจำเป็นต้องหาแนวทางใหม่ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ให้มีความยืดหยุ่น ทันสมัย และสอดคล้องกับลักษณะของผู้เรียนในยุคปัจจุบัน

    จากบริบทดังกล่าว โรงเรียนบ้านห้วยไคร้จึงได้พัฒนานวัตกรรม “เรียนภาษาอังกฤษสองโลกด้วยรูปแบบ Hybrid Learning ผ่านระบบคลังสื่อ OBEC Content Center” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนให้มีความสอดคล้องกับแนวคิดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และสนองตอบนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ส่งเสริมให้โรงเรียนใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ โดยเฉพาะระบบคลังสื่อ OBEC Content Center ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ และสามารถเข้าถึงได้ง่ายทุกที่ทุกเวลา

     

    วัตถุประสงค์และเป้าหมาย

    วัตถุประสงค์

    เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียน โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Hybrid Learning ควบคู่กับสื่อดิจิทัลจาก OBEC Content Center

    เพื่อพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ของนักเรียน

    เพื่อส่งเสริมเจตคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียน

     

    เป้าหมาย

    เป้าหมายเชิงคุณภาพ

    1) นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 10 หลังสิ้นสุดการเรียนการสอนแบบ Hybrid Learning โดยใช้สื่อดิจิทัลจาก OBEC Content Center

    2) นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ร้อยละ 80 สามารถใช้งานและเข้าถึงสื่อดิจิทัลในระบบ OBEC Content Center ได้สม่ำเสมอ และสามารถใช้งานเครื่องมือดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    3) นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ร้อยละ 80 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ เพิ่มขึ้นโดยวัดจากแบบสอบถามก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ ซึ่งมีคะแนนความพึงพอใจในระดับดีมากขึ้นไป

    เป้าหมายเชิงปริมาณ

    1) นักเรียนมีความเข้าใจเนื้อหาภาษาอังกฤษที่เรียนรู้จากสื่อใน OBEC Content Center สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม และครูสามารถวัดผลพัฒนาการตามตัวชี้วัดหลักสูตรได้อย่างชัดเจน

    2) นักเรียนแสดงความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีพฤติกรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องผ่านสื่อดิจิทัล

    3) นักเรียนมีความมั่นใจ กล้าพูด กล้าใช้ภาษาอังกฤษในกิจกรรมทั้งในและนอกห้องเรียนอย่างต่อเนื่อง และครูสังเกตเห็นพัฒนาการในด้านเจตคติและพฤติกรรมการเรียนรู้ที่ดีขึ้น

     

    ผลการดำเนินงาน

    ผลที่เกิดขึ้นบรรลุตามกิจกรรม

    การดำเนินงานตามแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้นวัตกรรม “ห้องเรียนภาษาอังกฤษแบบ Hybrid Learning ผ่านระบบ OBEC Content Center” ในหัวข้อเรื่อง Giving Directions ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนทั้งในด้านพัฒนาการของผู้เรียนและแนวทางการใช้สื่อเพื่อการเรียนรู้ที่ยั่งยืน โดยสามารถสรุปผลที่เกิดขึ้นได้ดังนี้

    1) ผลการดำเนินงานสอดคล้องตามวัตถุประสงค์ จากการดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งในชั้นเรียนและผ่านระบบ OBEC Content Center พบว่า ผลการเรียนรู้ของนักเรียนมีความก้าวหน้าและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทั้ง 3 ข้อที่กำหนดไว้ ได้แก่ (1) ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (2) พัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ และ (3) ส่งเสริมเจตคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ หลักฐานที่แสดงถึงผลสัมฤทธิ์ดังกล่าว ได้แก่ คะแนนการทดสอบก่อนและหลังเรียนจาก ZipGrade ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ใบงานที่นักเรียนเขียนประโยคบอกทางได้ถูกต้อง คลิปวิดีโอบทบาทสมมติการบอกทางที่นักเรียนจัดทำ และแบบสอบถามสะท้อนเจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษที่มีคะแนนความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก (เฉลี่ย 4.3 จาก 5)

    2) ผลสัมฤทธิ์ของการแก้ปัญหา/พัฒนาผู้เรียนสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ปัญหาที่พบในช่วงก่อนเริ่มโครงการ ได้แก่ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ต่ำ ขาดความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ และขาดทักษะในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ แต่ภายหลังจากดำเนินนวัตกรรม นักเรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองผ่าน OBEC Content Center ได้มากขึ้น มีความมั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในกิจกรรมบทบาทสมมติ และสามารถเขียนประโยคบอกทางได้อย่างถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ ผลสัมฤทธิ์ที่เพิ่มขึ้นของนักเรียนแสดงถึงการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

    3) ร่องรอย หลักฐานที่แสดงถึงการแก้ปัญหา/พัฒนาผู้เรียนได้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ร่องรอยและหลักฐานที่แสดงถึงพัฒนาการของผู้เรียนอย่างชัดเจน ได้แก่

    – ผลคะแนนจากแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน (Pre-test/Post-test) ผ่านแอป ZipGrade ที่แสดงให้เห็นว่านักเรียนกว่า 80% มีคะแนนเพิ่มขึ้น

    – ใบงานที่นักเรียนเขียนคำศัพท์และประโยคบอกทางได้ถูกต้องตามหลักการใช้ภาษา

    – คลิปวิดีโอ Role-Playing การบอกทางในสถานการณ์จริงที่นักเรียนจัดทำเอง และอัปโหลดผ่าน Google Classroom และ Youtube

    – แบบสอบถามวัดเจตคติที่แสดงว่าร้อยละ 85 ของนักเรียนมีความมั่นใจและรู้สึกสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น

    – ข้อมูลจากระบบ OBEC Content Center ที่แสดงจำนวนการเข้าชมเนื้อหาและการทำแบบฝึกหัดออนไลน์

    4) แนวทางในการใช้สื่อเพื่อพัฒนาผู้เรียนและปรับปรุงให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน จากผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้น โรงเรียนและครูผู้สอนได้เห็นถึงความสำคัญของการใช้สื่อดิจิทัลคุณภาพสูงจาก OBEC Content Center ในการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ จึงได้กำหนดแนวทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

    – บูรณาการสื่อจาก OBEC Content Center เข้าไปในแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาอื่น ๆ และขยายผลสู่ระดับชั้นอื่นในโรงเรียน

    – พัฒนาความรู้และทักษะของครูในการใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการเรียนรู้เชิงรุก

    – จัดระบบติดตามผลการใช้งาน OBEC Content Center ของนักเรียนแต่ละคนเพื่อให้ครูสามารถให้คำแนะนำและดูแลได้อย่างใกล้ชิด

    – สร้างชุมชนการเรียนรู้ (PLC) เพื่อแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการใช้สื่อดิจิทัลในการจัดการเรียนรู้

    – สนับสนุนให้นักเรียนเรียนรู้ต่อเนื่องนอกห้องเรียนโดยจัดกิจกรรม “การบ้านผ่าน OBEC” อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การเรียนรู้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

    ประโยชน์ที่ได้รับ

    จากการดำเนินการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ Hybrid Learning ร่วมกับการใช้สื่อจากระบบ OBEC Content Center ในการสอนภาษาอังกฤษเรื่อง Giving Directions นักเรียน ครู และโรงเรียนได้รับประโยชน์อย่างชัดเจนทั้งในด้านการพัฒนาทักษะ ความรู้ เจตคติ รวมถึงแนวทางการบริหารจัดการเรียนรู้ที่เป็นระบบ โดยสามารถสรุปประโยชน์ที่ได้รับในแต่ละด้านได้ดังนี้

    1) กระบวนการใช้สื่อ/นวัตกรรมก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน

    ผู้เรียนได้รับประโยชน์อย่างชัดเจนในด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ โดยเฉพาะในด้านทักษะภาษาอังกฤษ 4 ด้าน ได้แก่ การฟัง พูด อ่าน และเขียน จากเดิมที่ผู้เรียนส่วนใหญ่ขาดพื้นฐานคำศัพท์และไม่มั่นใจในการใช้ภาษา การเรียนรู้ผ่านสื่อใน OBEC Content Center ทำให้นักเรียนได้ฝึกฟังเสียงเจ้าของภาษา เห็นภาพประกอบ เข้าใจการใช้ประโยคบอกทาง และนำไปใช้ในการสื่อสารจริงในกิจกรรมบทบาทสมมติในชั้นเรียน นอกจากนี้ นักเรียนยังได้พัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยี เช่น การใช้งานเว็บไซต์ระบบ OBEC การส่งงานผ่าน Google Classroom และการบันทึกวิดีโอด้วยตนเอง ส่งผลให้เกิดความภาคภูมิใจและแรงจูงใจในการเรียนรู้

    2) กระบวนการใช้สื่อ/นวัตกรรมก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง (ครูผู้สอน)

    สำหรับครูผู้สอน การใช้นวัตกรรมดังกล่าวช่วยให้เกิดการพัฒนาตนเองในหลายด้าน เช่น การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบผสมผสาน การใช้สื่อดิจิทัลและเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ การพัฒนาแบบประเมินผลที่หลากหลาย และการวิเคราะห์ข้อมูลผู้เรียนเชิงระบบ ครูยังได้รับโอกาสในการใช้สื่อ OBEC Content Center เป็นแหล่งเรียนรู้ประกอบบทเรียน ทำให้การสอนมีคุณภาพมากขึ้น และสามารถตอบสนองความหลากหลายของผู้เรียนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การดำเนินนวัตกรรมยังส่งเสริมการทำงานเป็นทีม เช่น การวางแผนร่วมกันกับเพื่อนครู การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายใน PLC และการสะท้อนผลเพื่อนำไปปรับปรุงการสอนในอนาคต

    3) กระบวนการใช้สื่อ/นวัตกรรมก่อให้เกิดประโยชน์ต่อโรงเรียน

    โรงเรียนได้รับประโยชน์จากการนำนวัตกรรมไปใช้ในระดับห้องเรียน โดยเฉพาะการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการเรียนการสอนตามนโยบาย Smart Classroom และ Digital School ของกระทรวงศึกษาธิการ การมีหลักฐานชัดเจนของการใช้สื่อดิจิทัลและผลสัมฤทธิ์ที่ดีขึ้นของผู้เรียน ทำให้โรงเรียนมีต้นแบบแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่สามารถเผยแพร่และต่อยอดในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ได้ อีกทั้งยังสามารถใช้ผลลัพธ์จากนวัตกรรมนี้ในการสะท้อนคุณภาพของโรงเรียนในการประเมินจากต้นสังกัด เช่น เขตพื้นที่การศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

    4) แนวปฏิบัติสามารถนำไปเป็นต้นแบบและพัฒนาในบริบทอื่น ๆ

    แนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อจาก OBEC Content Center สามารถนำไปปรับใช้กับบทเรียนอื่น ๆ ในวิชาภาษาอังกฤษ เช่น การแนะนำตนเอง การใช้ภาษาในห้องเรียน หรือการบรรยายสถานที่ อีกทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับวิชาอื่น ๆ เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ หรือสังคมศึกษา โดยเน้นการใช้สื่อที่ตรงกับสาระการเรียนรู้ ร่วมกับแนวคิด Active Learning และ Hybrid Learning ซึ่งเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนทั้งในเมืองและพื้นที่ห่างไกล โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ราคาแพง เพียงแค่มีการวางแผนการใช้สื่อและจัดกิจกรรมอย่างเป็นระบบ ก็สามารถยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างยั่งยืน

     

กำลังดู 1 ข้อความ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)
  • You must be logged in to reply to this topic.