รูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่

0
2007

ชื่องานวิจัย        รูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ  จังหวัดเชียงใหม่

ผู้วิจัย                ว่าที่ร้อยตรี ชสิทธิ์ภิวัฒน์  กันยายน

ปีที่พิมพ์             2563

                  การวิจัยเรื่อง รูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่  ผู้วิจัยได้ดำเนินการตามกระบวนการของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development)) มีวัตถุประสงค์ คือ  (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและกำหนดกรอบกิจกรรมการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ (2)เพื่อพัฒนารูปแบบ การพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ (3) เพื่อนำรูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในไปใช้ในการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่     และ (4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของรูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผู้วิจัยได้ดำเนินการตามขั้นตอนของการวิจัยและพัฒนาแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและกำหนดกรอบกิจกรรมการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ  จังหวัดเชียงใหม่ ขั้นตอนที่ 2 เป็นการพัฒนารูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ ขั้นตอนที่ 3 การนำรูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในไปใช้ในการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในของ โรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ และขั้นตอนที่ 4 ประเมินความพึงพอใจของรูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย ครูผู้สอน บุคลากรทางการศึกษา จำนวน 13 คน  เครือข่ายผู้ปกครอง จำนวน 9 คน  คณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 9 คน ของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ ปีการศึกษา 2561-2562  เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการวิจัย ประกอบด้วย แบบสังเกต แบบสัมภาษณ์ แบบทดสอบ แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลแบบผสานวิธี(mixed methods) โดยเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งข้อมูลเชิงปริมาณและข้อมูลเชิงคุณภาพ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย การวิเคราะห์เนื้อหา(content analysis) ค่าเฉลี่ย(mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviations) และนำเสนอผลโดยพรรณนาความ

                  สรุปผลการวิจัย

รูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่  สรุปผลได้ดังนี้

                  1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและกำหนดกรอบกิจกรรมการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ  จังหวัดเชียงใหม่ 

                            1.1  ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน

                               จากการสัมภาษณ์และการสังเคราะห์ข้อมูล พบว่า

                              1) ไม่มีผลการประเมินความสำเร็จตามเป้าหมายของการดำเนินงาน

                              2) ไม่มีการจัดทำฐานข้อมูล  เครื่องมือสำหรับการประเมินความสำเร็จ ทั้งด้านผู้เรียน  ด้านครูและด้านผู้บริหาร         

                              3) ไม่มีการนำผลการประเมินมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพของงาน                

                              4) ไม่มีผลสรุปความสำเร็จตามเป้าหมายทั้งในระดับหน่วยงานและระดับแผนพัฒนา

                                1.2   ผลการกำหนดกรอบกิจกรรมการดำเนินงานประกันคุณภาพ ภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่

                  ผลการพัฒนาเกี่ยวกับพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลจากการเก็บรวบรวมข้อมูล จากการสังเกตสัมภาษณ์การสอบถาม  และการสำรวจ  ปรากฏผลตามกรอบการศึกษา  คือ บุคลากรทุกคนมีความรู้  ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นของการประกันคุณภาพการศึกษาได้ข้อมูลในการดำเนินการพัฒนาคุณภาพ  มีการแต่งตั้งคณะทำงาน  ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ  เสียสละ ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจและเวลา ในการร่วมมือกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  บุคลากรภายในโรงเรียนมีความรู้ความเข้าใจและตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของการประกันคุณภาพการศึกษามากขึ้น  คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้ง  ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองด้วยความมั่นใจมากขึ้น มีการกำหนดระบบการประกันคุณภาพการศึกษา  ตลอดทั้งสร้างสื่อคู่มือการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา

                  2. ผลการพัฒนารูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ 

                  จากการสังเกต สัมภาษณ์ สอบถามและสนทนากลุ่ม( Focus Group) ผู้เกี่ยวข้องกับการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนซึ่งประกอบด้วย ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายผู้ปกครองพบว่า ผลการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ  จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย 6 ขั้นตอนดังนี้

                        2.1 ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและเตรียมการ เป็นขั้นตอนที่จะต้องพัฒนาบุคลากรภายในโรงเรียนให้มีความรู้ความเข้าใจ กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนาคือ การฝึกอบรม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ การยอมรับและการตระหนักในคุณค่าความสำคัญของการประกันคุณภาพการศึกษาให้แก่ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนและแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในโรงเรียน  กำหนดบทบาทหน้าที่การสร้างทีมงาน  การพัฒนาความสามารถในการปฏิบัติงาน 

                        2.2 ขั้นตอนที่ 2 การวางแผนการประกันคุณภาพการศึกษา  กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนา  คือ  ประชุมเชิงปฏิบัติการโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ครู บุคลากรทางการศึกษา มีความรู้ ความสามารถในการจัดทำข้อมูลพื้นฐานการศึกษา  การจัดทำมาตรฐานคุณภาพการศึกษา การจัดทำธรรมนูญโรงเรียน  การจัดทำแผนปฏิบัติการ และการจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงานของหมวดฝ่ายและรายบุคคล ตลอดจนการฝึกปฏิบัติงานด้านกิจกรรมการเรียนการสอน  รูปแบบ  เทคนิค

                        2.3 การนำแผนการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้  กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนา  คือ  การประชุมชี้แจงและการมอบหมายหน้าที่ปฏิบัติโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับครู  บุคลากรทางการศึกษา  ผู้ปกครองนักเรียน กรรมการสถานศึกษา  ผู้นำท้องถิ่นและชุมชนเกี่ยวกับแผนดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา  การพัฒนาบุคลากร การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกและนิเทศกำกับ  ติดตามประเมินผล

                        2.4 ขั้นตอนที่ 4 การตรวจสอบ และทบทวนคุณภาพการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา  เป็นขั้นการตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษาประกอบด้วย  ขั้นเตรียมการ      ขั้นตรวจสอบ ขั้นสรุปและขั้นรายงาน กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนาคือการประชุมกำกับติดตามและประเมินผลโดยมีเป้าหมาย  เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติงานของครู บุคลากรทางการศึกษาว่าเป็นไปตามแผนหรือไม่เพียงใด และสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันทีในระหว่างดำเนินการและมีข้อมูลสารสนเทศจากผลการดำเนินงาน

                        2.5 ขั้นตอนที่ 5 การพัฒนาและปรับปรุงมาตรฐาน เป็นขั้นตอนการพัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานตัวบ่งชี้และมาตรฐานการปฏิบัติงาน กิจกรรมที่ใช้ในการพัฒนาคือประชุมเชิงปฏิบัติการโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ครู บุคลากรทางการศึกษา  และบุคลากรทุกคนทุกฝ่าย ได้ร่วมกันปรับปรุงมาตรฐานและตัวบ่งชี้ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนปฏิบัติงานและตามบทบาทหน้าที่ของตนเองที่ได้รับมอบหมาย 

                        2.6 ขั้นตอนที่ 6 การเตรียมการรับการประเมินจากองค์กรภายนอกเป็นขั้นตอนที่มีการเตรียมการ  3  ด้าน  คือ  การสร้างความเข้าใจให้กับครูและบุคลากร และการเตรียมการด้านเอกสารกลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนาการ  คือ  การนิเทศ  โดยมีเป้าหมายเพื่อแนะนำและชี้แจงให้ครู  อาจารย์และบุคลากรทางการศึกษามีความเข้าใจในการเตรียมรับการประเมินจากองค์กรภายนอก

                  3 . ผลการนำรูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในไปใช้ในการดำเนิน งานประกันคุณภาพภายในของ โรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่

                  ผลการนำรูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในไปใช้ในการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ มีดังนี้

                        3.1 ด้านการศึกษาและการเตรียมการ ใช้กิจกรรมการดำเนินงาน การทำกิจกรรมการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ  การศึกษาและการเตรียมการบรรลุตามเป้าหมาย  บุคลากรทุกคนมีความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญ  และความจำเป็นของการประกันคุณภาพการศึกษา ได้ข้อมูลในการดำเนินการพัฒนาคุณภาพต่อไป  เช่น  การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้  การวางแผนในการจัดการเรียนรู้  การเตรียมความพร้อมเพื่อการพัฒนาผลงานเข้าสู่การเลื่อนตำแหน่ง  หรือเลื่อนให้ได้รับวิทยฐานะต่าง ๆ  มีการแต่งตั้งคณะกรรมการทำงาน  ซึ่งทุกคนตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของการประกันคุณภาพการศึกษามากขึ้น คณะกรรมการที่แต่งตั้ง  ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองด้วยความมั่นใจมากขึ้น  มีการกำหนดระบบการประกันคุณภาพการศึกษา  ตลอดทั้งสร้างสื่อ  คู่มือการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา

                        3.2 ด้านการวางแผนการประกันคุณภาพการศึกษา  การประชุมเชิงปฏิบัติการ                    การวางแผน การประกันคุณภาพการศึกษา  บรรลุเป้าหมาย  คือ  บุคลากรหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้  หัวหน้าฝ่าย  คณะกรรมการสถานศึกษา  ร่วมกันวางแผนการพัฒนางานประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน  มีการจัดทำข้อมูลพื้นฐานและสารสนเทศให้ครบทุกด้านและเป็นปัจจุบันได้เอกสารมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาและแผนปฏิบัติการของโรงเรียน  มาตรฐานการปฏิบัติงานของแต่ละหมวด  แต่ละฝ่ายที่ปรับปรุงจากฉบับเดิมให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับการดำเนินโครงการต่าง ๆ ของโรงเรียนในสภาพปัจจุบันซึ่งจะเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานประกันคุณภาพและการรายงานผลต่อสาธารณชนและต้นสังกัดต่อไป

                        3.3 ด้านการนำแผนการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้

                                3.3.1 ผลการดำเนินการประชุม  ผู้เข้าร่วมประชุม  มีความรู้ความเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเองดี การมีส่วนร่วมจะช่วยให้พัฒนาโรงเรียนได้ดีขึ้น ในครั้งต่อไปโรงเรียนควรประชาสัมพันธ์กับผู้ใหญ่บ้านแต่ละหมู่บ้านขอความร่วมมือประกาศ  กระจ่ายข่าวแจ้งว่าไม่มีการบริจาคเงิน  และควรจัดประชุมไม่ให้ตรงกับวันหยุด  หรือช่วงที่เก็บเกี่ยวทำนา  คณะกรรมการสถานศึกษามีความพึงพอใจที่โรงเรียนได้ตั้งหรือกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนอย่างน้อยทุกคนได้รู้และเข้าใจว่านักเรียนเมื่อมาเรียนหนังสือแล้วได้อะไรบ้าง และเสนอแนะว่าต้องการให้โรงเรียนได้จัดทำอะไรบ้าง  เช่น การส่งเสริมโครงการศึกษาดูงาน  การส่งเสริมใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน  การสอนภาษาต่างประเทศโดยครูเจ้าของภาษา

                               3.3.2 การมอบหมายงาน  มีการประชุมมอบหมายงานโดยมีเป้าหมายเพื่อให้กลุ่มบุคลากรทุกคนรับผิดชอบภาระงานตามความรู้ความสามารถ  เมื่อบุคลากรทุกคนได้เข้าใจในภาระงานบทบาทหน้าที่  และขั้นตอนการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาและกำหนดในแผนปฏิบัติการของโรงเรียนจากการมีส่วนร่วมคิดร่วมทำทุกคนทำให้งานประกันคุณภาพการศึกษาเป็นส่วนหนึ่ง ของการบริหารและการจัดการศึกษาของโรงเรียน  เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่ได้กำหนดไว้ต้องมีการกำหนดตัวผู้ปฏิบัติงาน โดยผู้วิจัยและผู้ร่วมศึกษาได้เปิดโอกาสให้ครูได้เลือกรับผิดชอบและปฏิบัติงานตามความสนใจ  ความรู้ความสามารถและรวมกลุ่มงานที่จะมาร่วมกันทำงานเป็นทีมพัฒนางาน

                                 3.4 ด้านการตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษา

                                 ผลการดำเนินกิจกรรม  จากการทบทวนตรวจสอบคุณภาพการศึกษา  พบว่า  ครูและนักเรียนได้ทราบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา และได้ให้ข้อตกลงพร้อมกันในการดำเนินงานแก้ปัญหา จะไม่หยุดชะงัก เพราะจะทำให้เกิดผลไม่ดีกับนักเรียน โรงเรียน  ผู้อำนวยการสถานศึกษาให้ขวัญและกำลังใจในการทำงานแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาและเชื่อมั่นว่า  ทุกปัญหาจะต้องได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นได้ ด้วยความร่วมมือของบุคลากรทุกคนมีการแต่งตั้งคณะกรรมการนิเทศ  กำกับติดตาม  มีการกำหนดแนวทางการปฏิบัติ  แนวทางการตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษา  มีการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจให้คณะกรรมการสามารถดำเนินการตรวจสอบทบทวนคุณภาพการศึกษาตามกำหนดเวลาสามารถดำเนินการเก็บข้อมูลได้ทุกมาตรฐานสรุปรายงานผลการตรวจสอบได้ตามกำหนดเวลา

                                3.5 ด้านการพัฒนาและปรับปรุง  มาตรฐานการศึกษา

                                    มาตรฐานด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน  การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน  การวิจัยและนวัตกรรมของครูและนักเรียนที่ประชุมตกลงกันว่า  ในสภาพของการเปลี่ยนแปลงสังคมและวิทยาการด้านต่าง ๆ  ครูควรปรับเปลี่ยนวิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้  ครูต้องเปลี่ยนแปลงตนเองในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา  ครูทุกคนควรเข้าร่วมกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการในเรื่องการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  การทำวิจัยในชั้นเรียนการสร้างสื่อและนวัตกรรม 

                           3.6 ด้านการเตรียมรับการประเมินจากองค์กรภายนอก

                                     ผลการนิเทศการเตรียมรับการประเมินจากองค์กรภายนอก  มีข้อค้นพบ คือ

                              3.6.1 จากที่ครูได้รับการนิเทศอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ครูให้ความร่วมมือในการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษามากขึ้น มีความชัดเจนมากขึ้นในการจัดเตรียมเอกสาร ข้อมูลสารสนเทศและร่องรอยการปฏิบัติงาน  ครูมีผลงานที่สะท้อนผลการนิเทศได้ในระดับดี

                              3.6.2 จากการดำเนินงานที่ผ่านมาทำให้มีความมั่นใจมีความพร้อมให้สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา  เข้าประเมินคุณภาพภายนอก

                  4.   ผลการประเมินความพึงพอใจของรูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่

                         ผลการประเมินความพึงพอใจของรูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ มีดังนี้

                        4.1 ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อกระบวนการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายใน ของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่จำแนกตามรายด้าน พบว่าโดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (=4.81) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ทุกด้านมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยได้แก่ ด้านการนำแผนการประกันคุณภาพภายในไปใช้ (=4.98) ด้านการตรวจสอบทบทวนคุณภาพภายในของสถานศึกษา (=4.90) การพัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานการศึกษา         (=4.89) ด้านการเตรียมการประเมินจากองค์กรภายนอก (=4.83) ด้านการศึกษาและเตรียมการ    (=4.80) และด้านการวางแผนการประกันคุณภาพภายในไปใช้ (=4.61) ตามลำดับ

                        4.2 ระดับการมีส่วนร่วมของผลการประเมินความพึงพอใจของการพัฒนาประสิทธิภาพการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ  จังหวัดเชียงใหม่  เปรียบเทียบก่อนและหลังการพัฒนาผู้กรอบแบบสอบถาม จำนวน 13 คน พบว่า  เมื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจต่อการมีส่วนร่วมในพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ของบุคลากรก่อนที่จะมีการใช้กลยุทธ์นั้น บุคลากรมีความพึงพอใจ ระดับปานกลาง (= 3.35)   หลังการใช้กลยุทธ์มีความพึงพอใจในการมีส่วนร่วม อยู่ในระดับมาก (= 4.04)

ดาวน์โหลดบทคัดย่อ
รูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่

Comments

comments

- Advertisement -