รายงานการพัฒนาการบริหารงานพัสดุของโรงเรียนชะอำคุณหญิงเนื่องบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบุรี

0
459

ชื่อเรื่อง          : รายงานการพัฒนาการบริหารงานพัสดุของโรงเรียนชะอำคุณหญิงเนื่องบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบุรี
ชื่อผู้รายงาน     : นางสาวณัฐญา  คนคล่อง
ปีที่รายงาน      :

การบริหารงานพัสดุเป็นงานหนึ่งที่อยู่ในโครงสร้างของการบริหารงบประมาณ ซึ่งเป็นงานที่สำคัญมากเพราะเป็นงานที่สนับสนุนให้การบริหารงานของฝ่ายต่างๆบรรลุตามวัตถุประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการจัดการเรียนการสอนของครูเพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนทั้งด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ดังนั้นรายงานการพัฒนาการบริหารงานพัสดุของโรงเรียนชะอำคุณหญิงเนื่องบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบุรี   มีวัตถุประสงค์ของการรายงาน ดังนี้ 1) เพื่อรายงานผลการพัฒนาการบริหารงานพัสดุของโรงเรียนชะอำคุณหญิงเนื่องบุรี โดยใช้กระบวนการ POSDCoRB ของ Luther Culic และ Lyndall Urwick  2) เพื่อรายงานผลการส่งเสริมสนับสนุนของงานพัสดุต่อการพัฒนางานวิชาการที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนชะอำคุณหญิงเนื่องบุรี กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 2 คน ครูผู้สอน จำนวน 52 คน และนักเรียน จำนวน 288 คน รวมทั้งสิ้น 342 คน โดยใช้วิธีสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.994 ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติในการวิเคราะห์คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการพัฒนาการบริหารงานพัสดุของโรงเรียนชะอำคุณหญิงเนื่องบุรี พบว่า

1. ผลการประเมินด้านการวางแผนการบริหารงาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ในอันดับแรก คือ การกำหนดบทบาทเจ้าหน้าที่พัสดุมีความชัดเจน รองลงมา คือ การกำหนดโครงสร้างการบริหารงานพัสดุ

2. ผลการประเมินด้านบุคคลากร โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ในอันดับแรก คือ การมอบหมายงานเจ้าหน้าที่พัสดุมีความชัดเจน รองลงมา คือ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พัสดุตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

3. ผลการประเมินด้านการกำหนดความต้องการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีข้อที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด คือ บุคลากรมีส่วนร่วมในการกำหนดความต้องการใช้พัสดุ รองลงมา คือ การให้ความรู้ในการกำหนดวงเงินงบประมาณในการกำหนดความต้องการใช้พัสดุ และ การให้ความรู้ในการกำหนดรายละเอียดและคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ ตามลำดับ

4. ผลการประเมินด้านการจัดหาพัสดุ โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีข้อที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด คือ การจัดหาพัสดุเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ รองลงมา คือ บุคลากรมีส่วนร่วมในการจัดหาพัสดุ

5. ผลการประเมินด้านการควบคุมและการเบิกจ่าย โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีข้อที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด คือ การจัดทำหลักฐานการเบิกจ่ายถูกต้องครบถ้วน รองลงมา คือ การลงบัญชีวัสดุและทะเบียนครุภัณฑ์ครบถ้วนเป็นปัจจุบัน

6. ผลการประเมินด้านการดูแล บำรุง รักษาพัสดุ โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีข้อที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด คือ การสำรวจพัสดุที่ชำรุดเพื่อการปรับซ่อม รองลงมา คือ การกำหนดแนวปฏิบัติการขอปรับซ่อมพัสดุมีความสะดวก และ การดำเนินการปรับซ่อมพัสดุ รวดเร็วทันตามความต้องการใช้ ตามลำดับ

7. ผลการประเมินด้านการตรวจสอบพัสดุประจำปีและการจำหน่ายพัสดุ โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีข้อที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด คือ การประสานงานกับฝ่าย/กลุ่มสาระการเรียนรู้ในการตรวจสอบพัสดุประจำปีและการจำหน่ายพัสดุ รองลงมา คือ เจ้าหน้าที่พัสดุรายงานผลการตรวจสอบพัสดุประจำปีและการจำหน่ายพัสดุตรงตามเวลาที่กำหนดในระเบียบ และ คณะกรรมการตรวจสอบพัสดุประจำปีและจำหน่ายพัสดุ ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบ ตามลำดับ

8. ผลการประเมินด้านระเบียบและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับงานพัสดุ โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีข้อที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด คือ การกำกับ ติดตาม ตรวจสอบ การปฏิบัติงานพัสดุให้เป็นไปตามระเบียบ

9. ผลการประเมินด้านการใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยในอันดับแรก คือ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงานพัสดุ รองลงมา คือ การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการปฏิบัติงานพัสดุ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยในอันดับสุดท้ายคือ การควบคุม ดูแล คอมพิวเตอร์ให้พร้อมใช้งานได้เสมอ

10. ผลการส่งเสริมสนับสนุนของงานพัสดุต่อการพัฒนางานวิชาการที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนชะอำคุณหญิงเนื่องบุรี โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด เพื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด คือ ด้านการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน รองลงมา คือ ด้านการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ และ ด้านการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ตามลำดับ

ข้อค้นพบจากการรายงานการพัฒนาการบริหารงานพัสดุ แสดงให้เห็นว่า การบริหารงานพัสดุเป็นงานที่ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ ผู้บริหารและผู้ร่วมงานทุกคนควรมีส่วนร่วมในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมกันแก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและกำกับ ติดตามความก้าวหน้าในการพัฒนางานอยู่เสมอ จึงจะทำให้การบริหารงานประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

ดาวน์โหลดบทคัดย่อ

รายงานการพัฒนาการบริหารงานพัสดุของโรงเรียนชะอำคุณหญิงเนื่องบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบุรี

Comments

comments

- Advertisement -